มนุษย์ไม่อาจอยู่โดดเดี่ยวตามลำพัง จำเป็นต้องรวมกันอยู่เป็นสังคม เป็นกลุ่มก้อน ดังนั้นจำเป็นต้องจัดระบบในการอยู่ร่วมกัน โดยจะต้องมีฝ่ายปกครอง และอยู่ภายใต้การปกครอง ซึ่งไม่ว่าการปกครองจะเป็นลักษณะใดก็ตามถือว่าเป็น “การเมือง” การเมืองจึงเป็นเรื่องของการปกครอง ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองกับผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครองจะผูกมัดสมาชิกทั้งหมดในสังคม
วัตถุประสงค์ :ของพระพุทธศาสนาก็เพื่อรับใช้และเอื้อประโยชน์แก่มนุษยชาติ
จะเห็นได้ว่าพระพุทธศาสนามุ่งเน้นสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขแต่การจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขนั้นสมาชิกของสังคม
สาราณียธรรม หมายถึง ธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความให้ระลึกถึง หมายถึง มีความปรารถนาดีต่อกัน
เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ดังนี้
สังคหวัตถุ
4 แปลว่า เครื่องยึดเหนี่ยว มีความหมายว่า คุณธรรมเหล่านี้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจของผู้อื่นไว้ได้
1.ทาน แปลว่า การให้ หมายถึง การแบ่งให้ เฉลี่ยให้
ปันให้ เพื่อแสดงอัธยาศัยไมตรี ผูกสามัคคีกันไว้
2. ปิยวาจา แปลว่า เจรจาอ่อนหวาน หมายถึง พูดคำที่สุภาพ อ่อนโยนและเป็นคำที่มีประโยชน์ที่ผู้ฟังได้ฟังแล้วชื่นใจ
สบายใจเห็นประโยชน์ในคำพูด
3. อัตถจริยา แปลว่า ประพฤติประโยชน์ หมายความว่า
การบำเพ็ญตนให้เป็นคนมีประโยชน์ต่อผู้อื่น ได้แก่ การไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่เพื่อนมนุษย์
และไม่นิ่งดูดายเมื่อผู้อื่นขอความช่วยเหลือ
2. กรุณา คือ ความสงสาร คิดช่วยให้พ้นทุกข์
3. มุทิตา คือความยินดี ในเมื่อผู้อื่นอยู่ดีมีสุข
4. อุเบกขา คือ ความวางใจเป็นกลาง มีจิตใจเที่ยงตรง ไม่เอนเอียง
ที่มา :http://mediacenter.mcu.ac.th/data/caipyo/m5/web/summana/p1.php